top of page
Adventure in Korea  - 2013
 

ฮันบกเป็นเครื่องแต่งกายประจำชาติเกาหลีมาเป็นเวลาพัน ๆ ปีมาแล้ว ความงามและความอ่อนช้อยของวัฒนธรรมเกาหลีจะถูกถ่ายทอดออกมาผ่านทางภาพถ่ายของสุภาพสตรีในเครื่องแต่งกายฮันบกนี้

ก่อนที่วัฒนธรรมการแต่งกายแบบตะวันตกจะได้เข้ามาในเกาหลีเมื่อร้อยปีมาแล้วนั้น หญิงชาวเกาหลีจะสวมชุดฮันบกเป็นปกติทุกวัน ส่วนสุภาพบุรุษจะสวมชอโกรี (เสื้อนอกแบบเกาหลี) และพาจิ (กางเกงขายาว) ในขณะที่สุภาพสตรีสวมชอกอรีและชีมา (กระโปรง) ในปัจจุบันชุดประจำชาติฮันบก จะใช้สวมเฉพาะในโอกาสพิเศษต่าง ๆ เช่น งานมงคลสมรส วันซอลลัล (วันขึ้นปีใหม่ตามจันทรคติ) หรือวันชูซก (วันขอบคุณพระเจ้า) ฮันบก ของผู้หญิงประกอบด้วย กระโปรงพันรอบตัว เรียกว่า “ชิมา” และเสื้อ “ชอกอรี” ซึ่งคล้ายเสื้อแจ็คเก็ตฮันบกของผู้ชายประกอบด้วยชอกอริเช่นกัน แต่สั้นกว่าของผู้หญิง และมีกางเกงเรียกว่า “บาจิ” ทั้งชุดของผู้หญิงและผู้ชายสวมคลุมทับด้วยเสื้อคลุมยาวเรียกว่า “ตุรุมากิ”

 อนุสาวรีย์แม่ทัพอีซุนซิน (Yi Soon Shin)

  

  อนุสาวรีย์แม่ทัพอีซุนซิน นี้อยู่ตรง Gwanghwamun Square สร้างเพื่อเกียรติแก่แม่ทัพผู้ซึ่งปกป้องแผ่นดินเกาหลีจากการรุกรานของญี่ปุ่น ขณะที่ญี่ปุ่นเข้ามารุกรานทางฝั่งทะเลตะวันออกของเกาหลีท่านก็บัญชา

การรบ ใช้เรือเต่าที่มีชื่อเสียงนี้ กับกองเรือแค่สิบกว่าลำ จัดทัพเรือแบบนกกระเรียนโจมตีทัพเรือญี่ปุ่นที่มีกว่าร้อยลำ จนถล่มราบคาบ พ่ายแพ้กลับไป

 อนุสรณ์สถานแห่งสงครามเกาหลี(War Memorial of Korea)

       

          ชนชาติเกาหลี จำต้องเข้าร่วมสงครามหลายครั้ง เพื่อป้องกันการรุกรานจากทั้งโซเวียตจีนและญี่ปุ่น รวมทั้งสงครามที่เจ็บปวดที่สุดที่ชนในชาติ ต้องมาสู้รบทำลายกัน เพียงเพราะผู้นำมีอุดมการณ์ทางการเมืองที่แตกต่างกัน หลังสงครามสิ้นสุดลง อาวุธยุทโธกรณ์ที่ใช้ในสงครามจึงได้ถูกนำมารวมไว้ที่นี่ เพื่อเป็นอนุสรณ์เตือนใจให้เห็นพิษภัยและความเจ็บปวดของสงครามและเป็นอนุสรณ์ให้ทหารจากสหประชาชาติ ที่ส่งมาจากหลายประเทศที่พลีชีพในสงครามเกาหลี

           ตัวอาคารพิพิธภัณฑ์สงคราม เปิดให้เข้าชมเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 1994 ด้านหน้ามีอนุสาวรีย์ของเหล่าทหาร เครื่องบินรบ รถถัง ตลอดจนอาวุธอื่น ๆ ที่ใช้ในสงครามเกาหลี

bottom of page